Hakbyist

เรื่องนี้เป็นปัญหาพอควรเลยเพราะที่ทำงานดันมีคนดึงสายแลนออกทำให้แลนบางช่วงใช้ไม่ได้(ไม่ได้เป็นพื้นที่ผมเป็นพื้นที่ของคนอื่นเลยพูดอะไรไม่ได้มาก) ผมเลยแก้ด้วยการเอา p2p ที่เป็น Wifi มาติดแต่ไม่ว่ายังไงก็ช้าอืดมีปัญหาบ่อยครั้ง จนสุดท้ายผมนึกขึ้นได้ว่าความต่างอย่างหนึ่งระหว่างสายกับไร้สายคือ การ encryption ครับ กว่าผมจะคิดได้โดนด่าเยอะมากเพราะเน็ตตรงนั้นช้า ลองปรับหลาย ๆ อย่างเช่นความถี่จาก 20 เป็น 40 ก็ไม่ช่วยคือในทางทฤษฎีมันทำให้ bandwidth เยอะขึ้นจริงจาก 65->135 Mbps แต่เอาเข้าจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้น สุดท้ายผมเลยเอา encryption ออกเท่านั้นแหละครับปรากฎว่าเร็วพอ ๆ กับเน็ตที่ใช้สายดังนั้นถ้าใคร design เรื่อง p2p wifi ให้ลองเอา encryption ออกแล้วซ่อน ssid ไว้ครับมันจะดีขึ้นเยอะครับ

ทีนี้คำถามคือถ้าเป็น wifi ตามบ้านจะเอาความรู้ไปใช้อย่างไร โดยปกติ ap ตามบ้านจะมีสอง mode ที่รับ wifi แล้วปล่อย wifi คือ wisp กับ universal repeater ข้อแตกต่างระหว่างสองโหมดนี้คือ ip address ของลูกข่ายถ้าเป็น wisp จะเป็นคนละวงกับวงหลักแต่ถ้าเป็นแบบหลังจะเป็นวงเดียวกัน ก็ถ้ามี ap สองเครื่องไม่สะดวกเดินสายก็ใช้โหมด repeater นี่แหละมันจะ encrypt แค่ทีเดียว

ช่วงนี้ asus rt-n12+ ออกอาการพังเลยหา ap ใหม่มาใช้ทั้ง xiao mi,tp link wr841n v14,tenda สรุปแล้วมาจบที่ tenda ครับ tp-link function น้อยมากตัว ap มีปํญหาแปลก ๆ แบบมี duplicate packet ด้วยเวลา ping ไปที่ gateway ซื้อมาประมาณสี่ร้อยกว่าบาทที่ซื้อตอนแรกคิดว่าจะลง dd-wrt ได้แต่ไม่ได้ซะงั้น xiao mi ลง openwrt แล้วก็มีปัญหาแปลก ๆ เยอะเหมือนกันครับเลยไม่แนะนำถึงจะถูกก็ตามทีแต่แนะนำ tenda ac6 หรืออื่น ๆ ครับราคาแค่สี่ร้อยกว่าบาทแต่สามารถคุม bandwidth ของอุปกรณ์ได้ด้วยครับ ทำให้ผมรู้ว่าที่เน็ตช้าเกิดจาก mi stick ครับถ้าดูหนังกิน bandwidth ทีเป็น 1 MB (8 Mbps) คืออุปกรณ์เดียวใช้ bandwidth เกือบหมดครับถ้าคุณใช้เน็ต 10 Mbps ข้อเสียเดียวคือตัว ui ดันเป็นภาษาจีนครับแต่ผมใช้ google translate แปลเอาครับ ข้อดีอีกอย่างคือมันเป็น 2.4G / 5G ครับเลือกตัวที่เร็วกว่าให้เราด้วยครับ ลองดู ui คุม bandwidth ได้ตามภาพเลยครับ แนะนำเลยครับตัวนี้ หลังจากใช้มาซักพักเจอปัญหาใหญ่ ๆ คือมันร้อนมากครับ ร้อนแล้วเน็ตช้าไม่แนะนำสำหรับเมืองร้อนอย่างเราครับไม่ไหวแทบจับไม่ได้เลยครับ