อันนี้เป็นปัญหาทางกฎหมายนะครับ เพราะว่ามีห้างร้านที่ต้องปิดเนื่องมาจากคำสั่งรัฐบาลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เช่น ห้างสรรพสินค้า
กรณีนี้ว่าตามกฎหมายแพ่งการทำงานแล้วได้รับเงินเดือนนี่เป็นหนี้ต่างตอบแทนนะครับ คือพนักงานอยู่ในสถานะเป็นทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้และในทางเดียวกันห้างร้านเองก็เป็นทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ไปในตัว พนักงานมีหน้าที่ทำงานให้และห้างร้านมีหน้าที่จ่ายเงินเดือนตอบแทนงานที่พนักงานที่ได้ทำไป ในกรณีที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ชำระหนี้อีกฝ่ายย่อมสามารถปฏิเสธการชำระหนี้ได้เช่นกัน คือ เมื่อเหตุดังกล่าวไม่ได้เป็นความผิดของทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ ห้างร้านย่อมไม่ต้องจ่ายเงินเดือนเนื่องจากพนักงานไม่ได้ทำงานให้
แต่ทางรัฐบาลเองก็ออกมาบอกว่าสามารถรับเงินจากการทุนประกันสังคมได้ ในกรณีนี้คือก็ต้องไปรับเงินกับทางกองทุน แต่ไม่มีสิทธิที่จะไปเรียกร้องกับทางห้างร้านที่จ้างคุณได้ คนที่ห้างร้านยินดีจ่ายเงินให้เต็มเหมือนคุณทำงานให้นี่โชคดีมาก ๆ นะครับ
วันที่ผมเขียนมีวิกฤตเรื่องโควิดอยู่นะครับ ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลกระทบกับผมคือรายได้หายไปครึ่งหนึ่ง โดยเริ่มจากเดือน เม.ย.63 ซึ่งประจวบเหมาะกับการดาวพฤหัสโคจรเข้าราศีมังกรเป็นนิจ ปีนี้ตามทักษาจรพฤหัสเป็นศรี ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าถ้าพฤหัสได้ตำแหน่งไม่ดีผมจะมีปัญหาเรื่องการเงิน คำถามคือเรื่องนี้เกี่ยวกับโควิดอย่างไร ดาวพฤหัสจะถอยหลังกลับเข้าสู่ราศีธนูในช่วงเดือน ก.ค. แสดงว่าปัญหาโควิดนี่จะเกิดไม่เกิน มิ.ย.ปัญหาจะหายไป อันนี้ดูจากพื้นดวงของผมคนเดียวอาจจะไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ แต่แฟนผมลัคนาราศีมิถุน ดาวพฤหัสเป็นเจ้าเรือนปัตนิได้ดำแหน่งนิจโดยปกติผมจะให้เงินแฟนทุกเดือนพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ต้องบอกตรง ๆ ว่าให้เงินไม่ได้ แต่โชคดีที่ทำงานกันทั้งคู่หนี้สินไม่มีทำให้ไม่มีปัญหาการเงินหนักเท่าไหร่ พอพฤหัสย้ายเรือนกลับปัญหาที่ให้เงินกับแฟนไม่ได้ก็จะหายไปด้วย แสดงว่าเรื่องนี้ควรจบที่เดือน มิ.ย.
ทีนี้เปลี่ยนมาเรื่องหลักโหราศาสตร์บ้าง โดยสรุปเลยหากดาวทำหน้าที่เป็นศรี เดช มนตรี ได้ตำแหน่งไม่ดี(นิจประ)จะให้โทษ(โทษในที่นี้ยังเป็นโทษที่ฝ่าฟันไปได้คือถึงจะให้โทษแต่ให้โทษไม่เยอะ) หากไม่ได้ตำแหน่งมาตรฐานอะไรเป็น ศรีเดช มนตรีให้คุณ หากเป็นกาลีให้โทษ เรื่องนี้เคยเกิดกับดาวเสาร์ที่เป็นปัตนิเป็นกาลีจรเข้าภพอริ ปรากฎว่าผมกับแฟนมีปัญหากันเรื่องสร้างบ้านพอสร้างเสร็จก็จบพร้อมกับดาวเสาร์ที่เปลี่ยนหน้าที่เปลี่ยนราศี โดยสรุปตรงนี้จะได้หลักว่าดาวกาลีเป็นอริให้โทษจะหนักจะเบาแล้วแต่มาตรฐาน
แต่ในกรณีที่ดาวกาลีเป็นนิจประในภพที่ไม่ใช่ทุสถานภพ ไม่เป็น 6 8 12 ต่อลัคนาแบบนี้ให้โทษครับ คือตัวดาวเองไม่มีกำลังแล้วยังทำหน้าที่ไม่ดีอีกด้วย แต่หากดาวกาลีเป็นเกษตรหรืออุจน์หากไม่อยู่ในทุสถานภพยังให้ทั้งโทษและคุณแบ่ง ๆ กันไปไม่ได้ให้แต่โทษอย่างเดียว
หลายคนไม่เชื่อเรื่องโหราศาสตร์ถามว่าทำไมทำนายเรื่องโควิดไม่ได้ ซึ่งผมก็คงตอบแบบง่าย ๆ ก็ชีวิตคนเราผ่านเรื่องราวมาเรื่องบางเรื่องอาจะไม่เคยเกิดกับชีวิตมาก่อนย่อมไม่ทราบความหมายของดาวเมื่อทำหน้าที่ต่างกันโคจรเข้าภพต่างกันเมื่อเกิดเหตุแล้วถึงจะได้เข้าใจว่าความหมายคืออะไร เพราะเหตุที่ไม่มีประสบการณ์จึงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อทราบแล้วก็จะสามารถคาดเดาอนาคตได้ เช่น ผมต้องระวังดาวพฤหัสตอนตำแหน่งเสียผมจะมีปัญหาเรื่องเงินเป็นต้น
ถ้าเรากลับไปดูนิยามของคำว่าลับ ลับมาก ลับที่สุด ให้นิยามตามระเบียบว่าคือข้อมูลที่หากผู้ไม่มีอำนาจล่วงรู้จะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคง ความปลอดภัยของประเทศหรือความสงบในราชอาณาจักรหรือพันธมิตร แต่การให้นิยามแบบนี้มีเรื่องที่ไม่จริงอย่างหนึ่งคือ ภัยใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับราชอาณาจักรจะไม่เป็นเรื่องถาวร ไม่มีทางที่ภัยใด ๆ จะอยู่ไปตลอด เรายกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น คอมมิวนิสต์ ปีที่เขียนเรื่องนี้คือปี 63 แน่นอนว่าโลกทั้งโลกเห็นแล้วว่าคอมมิวนิสต์เป็นเรื่องเพ้อฝันแล้วการทำลายชนชั้นไม่สามารถทำได้เพราะแม้แต่ประเทศคอมมิวนิสต์ที่เชื่อว่าชนชั้นกรรมชีพควรเป็นผู้นำประเทศเองก็ไม่สามารถดำเนินการตามนั้นได้
เพราะฉะนั้นถ้าเราย้อนกลับไปดูเอกสารทางราชการต่าง ๆ ที่เคยนิยามว่าลับ ลับมากหรือลับที่สุดในเรื่องที่เกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ตอนนี้แล้วย่อมสามารถทำได้ โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือพันธมิตร ซึ่งบางกรณีคนที่เกี่ยวข้องอาจจะเสียชีวิตไปหมดแล้วก็ได้
ดังนั้นเอกสารที่เคยนิยามว่าเป็นเอกสารลับในเรื่องคอมมิวนิสต์ก็ควรถูกเปิดเผยได้ จริง ๆ เรื่องนี้มีแนวการปฏิบัติของประเทศอเมริกาที่เอกสารไม่ว่าจะเป็นเรื่องลับแค่ไหนก็ตามจะต้องถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน(Executive Order 13526 ที่เพิ่งออกในปี 2009 โดยโอบามา) ผมมองว่าการที่เอกสารพวกนี้ถูกกำหนดว่าชั้นความลับโดยหัวหน้าหน่วยมันง่ายเกินไป แล้วการที่ไม่มีกำหนดเวลาในการเปิดเผยทำให้เราหมดโอกาสในการเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตอนนี้กฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความลับคือระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการล่าสุดคุณอภิสิทธิ์เป็นคนเซนต์ จะมีหมวดว่าด้วยการละเมิดความลับหลักการคือ อะไรที่เป็นความลับต้องเป็นความลับตลอดไปหากเผยแพร่ต้องแก้คือถือว่าเป็นปัญหา โดยหลักการเลยไทยมีกฎหมายกำหนดชั้นความลับ แต่ไม่มีกฎหมายยกเลิกชั้นความลับ แต่เรื่องนี้ยังเป็น concept ใหม่อเมริกายังเพิ่งมีเมื่อสิบปีที่แล้วเอง แต่ผมคิดว่าเราไล่ตามเค้าทันได้
ส่วนตัวผมเชื่อว่าหากเราสามารถเปิดเผยเอกสารในอดีตเช่นนี้ได้จะทำให้เกิดการเรียนรู้ เช่น เราจะได้เห็นมุมมองของหน่วยงานรัฐที่มีต่อเหตุการณ์หรือบุคคลในอดีต การดำเนินการ หรือวิธีการดำเนินการและผลกระทบของมันว่าแนวคิดดังกล่าวก่อให้เกิดผลดีผลเสียอย่างไร ปัญหาที่แนวคิดดังกล่าวทำให้เกิดขึ้น อย่างน้อยที่สุดหน่วยงานรัฐหรือประชาชนหรือแม้ต่อฝ่ายบริหารนิติบัญญัติเหล่านี้จะเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้มาเป็นแนวทางการดำเนินงานในอนาคตได้
พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารราชการฯ นี่ออกมา 20 กว่าปีแล้วนะครับ แต่หลาย ๆ หน่วยยังไม่เข้าใจตัวคอนเซปท์ของ พ.ร.บ.นี้ จะออกไปแนวไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ แต่จุดที่มักจะผิดกันนี่ไม่ใช่จุดนั้น แต่จะเป็นเรื่องข้อมูลเป็นของใคร ตัวอย่างง่าย ๆ เลยคือ การทำหนังสือเดินทาง เวลาที่เราไปทำหนังสือเดินทางเอาบัตรประชาชนไปด้วย กต.จะสแกนลายนิ้วมือเรา ถ่ายรูปเราเพื่อทำหนังสือเดินทาง ทุกหน่วยเข้าใจว่าข้อมูลหนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นของ กต. แต่ผิดครับ ข้อมูลหนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นของเรา คือของบุคคลที่ไปทำหนังสือเดินทางครับ
ดังนั้นหากไปขอข้อมูลที่เป็นข้อมูลของตัวเราแล้วไม่ว่าจะหน่วยงานไหนก็ต้องให้เรา เราขอในฐานะเจ้าของข้อมูลครับ ตัวหน่วยงานเป็นเพียงหน่วยงานที่เอาข้อมูลของเราไปใช้เพื่อการใดการหนึ่งไม่ได้อยู่ในฐานะเจ้าของข้อมูลครับ ตัวอย่างเช่นหนังสือเดินทางที่ทำหน่วยงานเอาข้อมูลดังกล่วเพื่อทำหนังสือเดินทางครับ
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามข้อมูลส่วนบุคคลที่ว่ามีข้อยกเว้นในการให้อยู่คือในการให้เพื่อกรณีดังมาตรา 24 ของ พ.ร.บ.ได้นะครับ
จริง ๆ นี่จั่วหัวหลอกครับเพราะว่าจริง ๆ ผมไม่ได้เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมาตั้งแต่ต้นครับ แต่มีอาการที่ทำให้เข้าใจว่าตัวเองเป็นครับ ตอนปี 61 ผมมีอาการชาร้าวลงขา ตอนนั้นเป็นเพราะนอนเตียงที่เป็นหลุมครับเลยทำให้ปวดหลังบวกกับก่อนหน้านี้เคยยกของผิดท่าจนกล้ามเนื้ออักเสบครับ ตอนนั้นเข้าใจว่าการปวดหลังเกิดจากกล้ามเนื้อที่หลังอ่อนแอครับ ผมแก้โดยการยกบาร์เบลครับ deadlift squat ครับ ทำไปได้ซักพักครับประมาณ เม.ย. ปี 62 ผมก็เป็นกล้ามเนื้ออักเสบเฉียบพลันครับ
ปวดหลังจนเดินไม่ได้ต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างเดียวครับ ตอนนั้น x-ray หมอบอกว่าเป็นที่กล้ามเนื้อรักษาโดยการฉีดยาแก้อักเสบพักซักหน่อยก็อาการดีขึ้นครับ พอหายแล้วผมพยายามกลับมายกบาร์เบลครับ แต่ทุกครั้งที่ยกจะปวดหลัง สุดท้ายผมเลยต้องออกกำลังกายแบบ body-weight ก็ทำมาเรื่อย ๆ จนเดือนนี้ผมอยากออกขามาก ๆ ก็เลยทำ single leg squat
แล้วอาการเดิมก็กลับมาครับมีอาการขาชาเวลานั่งกับพื้น เจ็บลงขาครับ จนผมงงว่าอ้าวน้ำหนักก็ไม่ได้ยกแล้วทำไมกลับมาเป็นอีกหละ จนค้นเน็ตเจอว่าไอ้การ single leg squat เนี่ยมันใช้กล้ามเนื้อที่เรียกว่า piriformis เป็นกล้ามเนื้อที่ก้นมากกว่า bodyweight squat ปกติ ซึ่งตัวกล้ามเนื้อที่ว่าลากผ่านขวางก้นใกล้กับเส้นประสาทที่ลงสู่ขาเรา หากกล้ามเนื้อดังกล่าวอักเสบ บวม มันจะไปทับเส้นประสาทที่ว่าทำให้เกิดอาการเหมือนหมอนรองกระดูทับเส้นประสาทครับ
วิธีการแก้ง่าย ๆ ครับพอผมรู้ว่าเกิดจากกล้ามเนื้อตัวนี้หลังออกกำลังกาย 1 วันมันจะเป็นช่วงที่เราปวดกล้ามเนื้อที่สุดผมจะนั่งทับลูกเทนนิสครับ นั่งทับให้มันคลึงกล้ามเนื้อให้คลายตัวครับ ลองทำตามนี้ดูนะครับ
สรุปคือตอนนี้ผมกลับไปยกน้ำหนักในท่า squat ได้อีกครั้ง แล้วรู้แล้วว่าจริง ๆ แล้วไอ้การปวดร้าวลงขาที่ว่าเกิดจากกล้ามเนื้อ ไม่ใช่หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ใครที่คิดว่าตัวเองเป็นผมแนะนำเลยครับให้ลองทำ single leg squat ก่อนดูว่าปวดหรือไม่แล้วลองใช้ลูกเทนนิสนวดกล้ามเนื้อบริเวณนั้นดูครับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าผิดกันค่อนข้างมากเรื่องอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ในเรื่องการตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพียงฉบับเดียวนะครับเท่าที่ผมหาเจอคือ https://bit.ly/38SHbX2 ในตัวกฎหมายเพียงจะบอกว่านำข้อมูลไปเพื่อวางแผน ไม่ได้ระบุขนาดว่าเจ้าพนักงานสามารถระงับการเดินทางจากการคัดกรองล่วงหน้าได้นะครับ ตัวอย่างเช่น นายเอต้องการเดินทางจากต่างประเทศเข้ามายังราชอาณาจักรแม้เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตก็ไม่ถือว่าการไม่อนุญาตด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวเป็นคำสั่งของเจ้าพนักงาน ด้วยเหตุผลที่ว่าเจ้าพนักงานย่อมมีอำนาจเพียงแต่ในราชอาณาจักรเท่านั้น การที่ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองเป็นความเข้าใจผิดของสายการบินเอง และจะกลายเป็นว่าสายการบินไม่สามารถชำระหนี้ได้โดยไม่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยและสายการบินเองต้องรับผิดชอบทางแพ่งเพราะเป็นผู้ผิดสัญญา
อันนี้เป็นปัญหาที่สมมติขึ้นมาเล่น ๆ หากตรงกับเรื่องจริงแสดงว่าบังเอิญ สมมติว่ากรม ส. พบว่าคนต่างด้าวยังไม่ได้จ่ายเงินภาษี จึงทำหนังสือไปยัง สำนักงาน ต. ขอความร่วมมือไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งจะมีปัญหาดังต่อไปนี้
- สำนักงาน ต. มีอำนาจในการห้ามคนต่างด้าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักรหรือไม่ ?
- หากคนต่างด้าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักรมีกฎหมายใดให้อำนาจกระทำการใด ๆ บ้าง ?
- กรณีนี้ถ้าเป็นผมคิดว่าควรจะทำอย่างไร ?
อย่างแรกเลยไม่มีกฎหมายข้อใดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ให้อำนาจเจ้าพนักงานในการห้ามคนต่างด้าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักรครับ มีแต่การให้อำนาจในการผลักดันหรือห้ามไม่ให้เข้าประเทศครับ ดังนั้นตัดเรื่องอำนาจจาก พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ไปได้ครับ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกฉบับคือ ประมวลรัษฎากร
มาตรา 4 นว คนต่างด้าวผู้ใดเดินทำงออกจากประเทศไทยโดยไม่มีใบผ่านภาษี อากร ซึ่งต้องมีตามความในประมวลรัษฎากรนี้ ต้องระวำงโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือจำคุกไม่ เกินหนึ่งเดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ คนต่างด้าวผู้ใดพยายามกระทำการเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน ดังนั้นจะเห็นว่าเจ้าพนักงานสามารถดำเนินคดีกับคนต่างด้าวได้โดยอาศัยอำนาจตาม ประมวลรัษฏกร
ทีนี้คำถามยังไม่จบนะครับกรณีที่คนต่างด้าวถูกลงโทษทางอาญาไปแล้ว หากต้องการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรอีกครั้งจะทำอย่างไร เพราะโทษทางอาญาต้องไม่โดนลงโทษซ้ำอย่างเด็ดขาด ทางแก้ก็เหมือนเดิมครับกลับไปดูประมวลรัษฎากรอีกครั้งจะมีเรื่องการให้คนต่างด้าวทำประกันก่อนเพื่อรับใบผ่านภาษีตามมาตรานี้
มาตรา 4 อัฏฐ คนต่างด้าวซึ่งมีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าออกประเทศไทยเป็น ปกติธุระเกี่ยวกับการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพ จะยื่นคำร้องต่ออธิบดีหรือผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ที่ ได้รับมอบหมาย แล้วแต่กรณี ขอให้ออกใบผ่านภาษีอากรให้ใช้เป็นประจำก็ได้ ถ้าผู้รับคำร้องพิจารณา เห็นว่าคนต่างด้าวผู้นั้นมีความจำเป็นดังที่ร้องขอ และมีหลักประกันหรือหลักทรัพย์อยู่ในประเทศไทย พอคุ้มค่าภาษีอากรที่ค้างหรือที่จะต้องชำระแล้ว จะออกใบผ่านภาษีอากรให้ตามแบบที่อธิบดีกำหนด ก็ได้ใบผ่านภาษีอากรเช่นว่านี้ให้มีกำหนดเวลาใช้ได้ตามที่ระบุในใบผ่านภาษีอากรนั้น แต่ต้องไม่เกิน กว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันออก
เจ้าพนักงานก็สามารถอ้างว่าคนต่างด้าวยังไม่มีใบผ่านภาษีไม่สามารถอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ และการเดินทางครั้งหลังก็เป็นอีกกรรมหนึ่งจึงไม่ใช่การลงโทษซ้ำ
แต่โดยความคิดผมเห็นว่าวิธีการนี้ค่อนข้างยุ่งยากแล้วเป็นการยากที่จะให้เจ้าพนักงานอีกหน่วยเข้าใจกฎหมายที่หน่วยงานตนเองรับผิดชอบอยู่ โดยหากเชื่อว่าคนต่างด้าวจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรจริง กรม ส. ควรฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อทำการสืบทรัพย์และขอให้ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวดังกล่าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้และส่งคำสั่งศาลไปยังอีกหน่วยจะรวบรัดกว่า เรื่องนี้คิดอยู่สามวัน
Recent Comments