Home > Self-Change > ขับ Grabfood วันแรกเชิงวิเคราะห์

ขับ Grabfood วันแรกเชิงวิเคราะห์

April 5th, 2020

ช่วงนี้รายได้ผมลดลงเกินครึ่งก็เลยคิดจะหารายได้เสริมโดยการขับ Grabfood ครับ ตอนแรกก่อนจะประกาศเคอร์ฟิวผมเข้าใจว่า Grab น่าจะยังขี่ได้เพราะเข้าข้อยกเว้น แต่ไม่ใช่ครับวันนี้ Grab ประกาศเวลารับงานเป็นไม่เกินสามทุ่ม ทำให้ผมอาจจะตัดสินไปทำอย่างอื่นแทน

แต่วันนี้จะมาเขียนเรื่องหลัก ๆ เลยคือเรื่องสถิตินิดเดียวจริง ๆ แล้วก็อาจจะเป็นเรื่อง Game theory นิดหน่อย เข้าใจว่ายังไม่มีคนเขียนเรื่องนี้ด้วยการเอาเรื่องพวกนี้ไปจับครับ วันนี้ผมขี่ Grabfood วันแรกทำเงินได้ 40 บาทถ้วนครับ เหตุผลเพราะ

  1. Grab มีค่าลงทะเบียนแรกเข้า 200 บาทครับ
  2. ผมขี่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเข้าใจว่างานไม่ได้เยอะขนาดนั้นครับแล้ว Grabfood Foodpanda นี่แทบจะขับชนกันครับ

มาวันแรกผมเข้าใจว่าขี่ Grabfood หมูแน่ ๆ ได้เงินชัวร์วิธีการของผมก็คือไปรอที่ร้านครับ เพราะหลัก ๆ เลยผมเข้าใจว่าตัว Grab เลือกคนจาก location ที่แชร์ไปคนที่อยู่ใกล้ร้านน่าจะได้งาน เรื่องนี้มีข้อมูล publish อยู่นะครับลองอ่านจากลิงค์นี้ได้ครับ เรื่องต่อมาคือผมออกจากบ้านตั้งแต่แปดโมง แต่ออร์เดอร์แรกเข้าประมาณเก้าโมงกว่า ๆ เพราะฉะนั้นเวลาที่เหมาะจะออกจากบ้านน่าจะเป็นเก้าโมงมากกว่า อันนี้ทำให้ผมเสียเวลาไปชั่วโมงหนึ่งเต็ม ๆ

ออร์เดอร์แรกมาก็ดีใจครับชีวิตมีความหวังเริ่มเห็นหนทางการทำเงินครับ แต่พอเสร็จจากออร์เดอร์แรกอันต่อไปก็ไม่มาครับ อย่างที่ผมบอกครับว่าผมรอหน้าร้าน แต่ตอนที่รอมันดันมีคันอื่นมารับออร์เดอร์ไปแสดงว่ามีปัจจัยอย่างอื่นนอกจากระยะห่างของเราจากร้านครับ ซึ่งเดี๋ยวผมจะอธิบายว่าคืออะไร (ทั้งหมดนี้คือการเดาล้วน ๆ แต่เป็นการเดาแบบมีเหตุผลนะครับ)

ด้วยอย่างที่ผมบอกว่าระหว่างที่รอผมเห็นคันอื่นได้ออร์เดอร์ไปและระหว่างขากลับผมก็เห็นว่าเฮ่ย Grabfood Foodpanda รอเต็มเลยแฮะเกือบสิบคัน จากข้อมูลที่เห็นทำให้ผมคิดว่าเฮ่ย รอตรงนี้ไม่ได้ประโยชน์แน่ ๆ แล้วเราจะเสียเวลาวันแรกไปเปล่าเพราะฉะนั้น ลองหาจุดที่มีร้านอาหารเยอะ ๆ แล้วมีพวก Grabfood น้อย ๆ ดีกว่าก็เลยตระเวนขับไปเรื่อย ๆ ครับแล้วหิวหาลูกชิ้นทอดกินดีกว่าจอดแวะร้านลูกชิ้นทอด กินเสร็จก็มีลูกชิ้นทอดเข้ามาพอดี สรุปเลยช่วงเช้าผมได้งานแค่ 2 งานครับตีเป็นเงินในระบบ 60 บาท เท่ากับผมไม่ได้รับเงินจริง ๆ ซักบาทนะครับแต่แค่เงินในระบบจากติดลบ 200 บาทเหลือ 140 บาท

จริง ๆ ก่อนที่จะขับเห็นว่าจะมี Features heat map ในแอพแต่ผมดูแล้วไม่มีนะครับ เชียงใหม่อาจจะยังไม่มีก็เลยทำให้ค่อนข้างสะเปะสะปะในการหาว่าจะไปอยู่ตรงไหนดี พอช่วงเที่ยงผมพักนิดหน่อยประมาณสองชั่วโมงแล้วค่อยกลับมาวิ่งต่อ แต่ก็เหมือนเดิมครับรอนานมากงานไม่ขึ้น ผมจะถอดใจครับก็ประมาณว่าจะกลับบ้านแต่จังหวะที่กลับบ้านงานดันเด้งครับ ต้องบอกก่อนว่าปกติผมเคยสั่ง Grabfood ไปที่บ้านครับ ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือเปล่าแต่จะกลับสองทีงานเด้งสองทีครับ

โดยสรุปเลยนะครับบริษัทได้เปรียบจากการที่มีค่าธรรมเนียมเริ่มต้น 200 บาท เท่ากับว่าคุณต้องทำงานให้เขาฟรี ๆ 200 บาท นี่คือจุดแรกที่บริษัทได้เปรียบคุณ จุดต่อมามันมีสิ่งที่เรียกว่า incentive คือถ้าเราทำงานตามเงื่อนไขเราจะได้เพชรซึ่งเมื่อสรุปวันเพรชที่ว่าจะกลายเป็นเงินครับ แต่ทีนี้ไม่มีใครรู้ว่าเงื่อนไขการแจกงานเป็นอย่างไร คือบริษัทสามารถที่จะแจกงานให้กระจายได้เพื่อที่จะได้ไม่มีใครได้รับเพชรครบตามจำนวนเพื่อทำให้ได้เงินสูงอย่างที่เขาบอกไว้ อย่างที่บอกครับมันเป็น zero sum game บริษัทได้เราจะเสียมันไม่ได้ win win ครับเพราะอย่างนั้นมันเป็นเรื่องยากที่บริษัทจะจ่ายงานให้คุณจนคุณสามารถได้เงินแบบเต็มเหนี่ยวเพราะมันทำให้บริษัทได้เงินน้อยลง แต่ทำไมถึงมีคนออกมาบอกว่าทำได้ เพราะว่ามันมีบางคนทำได้ครับ เวลาที่เราทำงานแบบนี้รายได้ของทุกคนจะออกมาเป็น normal distribution คือมีคนที่ได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยบางส่วน มากกว่าค่าเฉลี่ยบางส่วนในขณะที่คนจะไปกอง ๆ กันอยู่ตรงค่าเฉลี่ย ซึ่งมันแปลว่ามีคนทำได้ไม่ได้แปลว่าคุณจะทำได้ มันต้องอาศัยประสบการณ์ความเข้าใจในกฎของบริษัทว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้รับงานมากที่สุด

อีกเรื่องคือข้อมูลการทำงานเนี่ยบริษัทเองไม่ได้เปิดเผย คือไม่ได้ออกมาบอกว่าคนส่วนใหญ่ทำงานแล้วได้เงินเท่าไหร่ คือเข้าใจใช่ไหมครับการที่ปิดบังข้อมูลบางส่วนทำให้คนเข้ามาในธุรกิจเอง แล้วบริษัทก็จะได้แรงงานฟรี ๆ 200 บาทไปเรื่อย ๆ ตรงนี้เองผมมองว่าพวกธุรกิจแบบนี้ต้องมีกฎหมายบังคับให้ออกรายงานประจำปีว่ารายได้คนส่วนใหญ่อยู่ที่ไหน ทำออกมาเป็น normal distribution curve เลยเพื่อให้คนสามารถตัดสินใจได้ว่ามันคุ้มค่าที่จะทำไหม

โดยสรุปเลยถ้าคุณเพิ่งขับ Grabfood วันแรกเขาจะใช้คุณจนคุ้มค่า 200 บาทครับ ถ้าทำท่าจะถอดในอาจจะป้อนงานให้อีกหน่อยเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะทำอย่างต่ำในกรอบ 200 บาทครับ แต่ถ้ามีใครจะทำเงินได้มากเกินไปเขาจะเริ่มจ่ายงานให้คนอื่นครับ ผมตั้งใจว่าจะลองอีกซักหน่อยดูว่าพอพ้นวันแรกไปแล้วจะเป็นอย่างไร รายได้จะเป็นอย่างไรสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำไหม ซึ่งเอากันตรง ๆ รายได้พวกนี้ควรจะอยู่แถว ๆ รายได้ขั้นต่ำไม่งั้นคนก็ไม่มาขับเพราะไปทำอย่างอื่นดีกว่า แต่ผมบอกเลยถ้าคุณมีทางเลือกมีทางทำเงินที่ดีกว่านี้ผมแนะนำเลยให้ทำไปอย่างอื่นดีกว่าครับ อย่ามาทำงานทั้งวันที่ไม่รู้ว่าคุณจะได้เงินถึง 300 บาทหรือเปล่าเลยครับ

Categories: Self-Change Tags:
Comments are closed.